ประเภทของสีย้อมหนัง
บทความนี้เรามาคุยกันเรื่องของสีย้อมหนังกันค่ะ สีย้อมหนัง สีทาหนัง สีเพ้นท์หนัง สีทาขอบหนัง สีย้อมหนังกลับ มันคืออะไรบ้าง มาเฉลยกันดีกว่าสีย้อมหนังคืออะไร มีกี่ประเภท
ประเภทของสีย้อมหนังที่นิยมใช้ แบ่งออกง่าย ๆ ได้ 4 ประเภทค่ะ
1. สีย้อมหนัง สูตรน้ำ (Water Based) เป็นสีย้อมหนัง ที่มีส่วนผสมของน้ำเป็นหลัก สีชนิดนี้จะเรียกว่าสีย้อมหนังก็ไม่เชิง จริง ๆ ควรจะเรียกว่า สีเคลือบหนังมากกว่าค่ะ
เนื่องจากสีชนิดนี้อาจจะมีความโปร่งแสงระดับหนึ่งแต่เมือลงทับกันหลาย ๆ ชั้นแล้ว จะค่อนข้างทึบแสง เหมาะกับงานซ่อมสีเครื่องหนัง หรือที่ร้านสปากระเป๋าเรียกว่า "งานทำสี" ซึ่งเป็นงานที่ต้องการปกปิดริ้วรอยความไม่สวยงามของหนัง อันเกิดจากรอยขีดข่วน รอยปากกา คราบสกปรกต่าง ๆ ที่เอาไม่ออกด้วยวิธีทำความสะอาดกระเป๋าหนังตามปกติ เป็นสีที่แห้งค่อนข้างช้าเมื่อเทียบกับสีย้อมหนัง สูตรแอลกอฮอล์
สีชนิดนี้ควรมีความนุ่ม และยืดหยุ่นสูงเมื่อแห้งสนิท เหมาะกับหนังทุกประเภท มีเฉดสีหลากหลาย สีเมทาลิคก็จัดอยู่ในสีสูตรนี้เช่นกันค่ะ ความเงาด้านก็ปรับได้หลายระดับ ตั้งแต่เงา ด้าน กึ่งเงา กึ่งด้าน หรือเงาแก้ว เป็นหนังแก้วเลยก็มีค่ะ
2. สีย้อมหนัง สูตรแอลกอฮอล์ (Alcohol Based) สีย้อมหนังสูตรนี้เหมาะที่จะเรียกว่าเป็นการย้อมหนังอย่างแท้จริง เนื่องจากเป็นสีสูตรที่แห้งเร็ว เมื่อลงไปแล้วไม่กลบลายหนัง ดูเป็นธรรมชาติมาก ๆ เหมาะกับการย้อมหนัง Cowhide (หนังวัวฟอกฝาด) เนื่องจากการนำหนัง Cowhide ใหม่มาเปลี่ยนบนกระเป๋าหรือเครื่องหนังบางส่วน แต่ยังเหลือส่วนอื่น ๆ ในกระเป๋าอยู่ เช่น เปลี่ยนสายกระเป๋าแล้ว แต่ขอบปากกระเป๋าด้านในไม่ได้เปลี่ยนเพราะไม่ได้ชำรุด เราก็ควรใช้สีย้อมหนังประเภทนี้ ย้อม cowhide ใหม่ ๆ ที่สีเป็นสีขาวอมชมพู ให้ออกเป็นสีน้ำผึ้งเหมือนส่วนอื่น ๆ เพื่อความกลมกลืนกันทั้งหมดของงานค่ะ เหมาะกับการย้อมสีหนังที่มีอัตราการดูดซึมสูง เช่น การย้อมสีหนัง Cowhide และ การย้อมสีหนังกลับ หรือหนังที่ต้องการคงความเป็นธรรมชาติค่ะ แน่นอนว่าสีประเภทนี้ไม่สามารถกลบริ้วรอยใด ๆ ได้เลย
3. สีย้อมหนัง สูตรออยล์ (Oil Based) เป็นสีย้อมหนังที่มีส่วนผสมของน้ำมันอยู่มาก ส่วนมากแล้วสีจะถูกผลิตออกมาในลักษณะของเนื้อครีม ร้านสปากระเป๋าจะเรียกวิธีการใช้สีประเภทนี้ว่า "สปาสี"
เนื่องจากว่าผลที่ได้จากการใช้สีย้อมหนังชนิดครีมนั้นจะเพิ่มความสดใสของสีหนังอย่างเป็นธรรมชาติ และเพิ่มความนุ่มให้กับหนังด้วย อีกทั้งวิธีการใช้สีย้อมหนังประเภทนี้ก็ง่ายมาก ๆ เพียงแค่นวดลงไปบนหนัง แล้วขัดเงาต่อด้วยครีมขัดเงาหนัง (Leather Polishing) เพื่อให้หนังขึ้นเงาและขจัดครีมสีส่วนเกินออกไป แต่หากกระเป๋ามีริ้วรอยถลอก สีย้อมหนังชนิดนี้ไม่อาจจะกลบริ้วรอยใดๆ ได้นะคะ เนื่องจากสีย้อมหนังประเภทนี้มีไว้เพือช่วยให้สีของหนังสดใสขึ้นเท่านั้น หากจะกลบริ้วรอย สีย้อมหนังสูตรน้ำยังคงเป็นพระเอกแน่นอนค่ะ หนังที่เหมาะกับสีประเภทนี้ควรเป็นหนังที่นุ่มมีอัตราการดูดซึมสูง และมีสีเข้มเกือบดำค่ะ เช่น ดำ, น้ำเงินเข้ม, แดงเข้ม, น้ำตาลเข้ม, เขียวเข้ม ได้หมด ฯลฯ สีอ่อนก็ลงได้เช่นกันก็จะดูสดใสขึ้นระดับหนึ่ง
4. สีทาขอบหนัง เอามาจัดรวมในประเภทสีย้อมหนัง เพื่อให้เห็นภาพรวมของประเภทสีเพื่อการซ่อมแซมเครื่องหนังด้วย แต่จริง ๆ แล้วสีประเภทนี้เป็นสี Acrylic คือสีพลาสติก สามารถจัดเป็นสูตรน้ำได้เช่นกัน แต่เนื่องจากลักษณะสีประเภทนี้มีความข้นเหนียว และความยืดหยุ่นสูงมาก ๆ จึงนิยมนำมาทาขอบหนังเพื่อเก็บความเรียบร้อยของงานค่ะ สีทาขอบหนังสามารถกลบริ้วรอยบนหนังได้เหมือนสีย้อมหนังสูตรน้ำข้อ 1 แต่เนื่องจากสีมีความข้นสูง ถ้านำมาใช้เพื่อปกปิดริ้วรอยหรือเปลี่ยนสีหนัง สีจะกลบลายหนังดูหนาไม่เป็นธรรมชาติค่ะ
ส่วนจะย้อมหนัง จะทาหนัง จะเพ้นท้หนัง จะพ่นสีหนัง ได้หมด ขึ้นอยู่กับความข้นเหนียวของสีย้อมหนังแต่ละชนิดค่ะ ว่าเหมาะกับวิธีการไหน หากจะลองใช้สีสเปรย์กระป๋องตามร้านวัสดุก่อสร้าง หรือสีอคิลิคตามร้านเครื่องเขียนมาแทนสีย้อมหนัง ที่ผลิตขึ้นมาเพื่อเป็นสีย้อมหนังจริง ๆ เพื่อใช้กับเครื่องหนังก็ไม่ว่ากัน แต่สีก็จะลอกจะแตกในเวลาไม่นานแน่นอน เนื่องจากสีเหล่านั้นผลิตขึ้นเพื่อใช้ในการวาดรูปเป็นหลักค่ะ คือวาดบนวัสดุต่าง ๆ ได้ แต่ไม่ได้นำมาใช้งานเอาไว้โชว์ ไม่ได้มีการหัก บิด งอ เหมือนเวลาเราใช้กระเป๋าหรือเครื่องหนังค่ะ ถ้าอ่านแล้วยังสับสน สอบถามเลยค่ะ Line : bagtouch เรามีผู้เชี่ยวชาญการทำสี การเปลี่ยนสีกระเป๋าหนัง และรองเท้าหนัง พร้อมให้คำปรึกษาค่ะ
Comments